การขออนุญาตจัดตั้ง โรงเรียนอนุบาล
ผู้ประสงค์จะจัดตั้งโรงเรียน ให้ปฏิบัติและดำเนินการตามเงื่อนไขต่อไปนี้
1. เสนอโครงการจัดตั้งโรงเรียนพร้อมหลักสูตร ให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชนพิจารณา ทั้งนี้
รูปแบบและหัวข้อเรื่องในโครงการให้เป็นไปตามแบบที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชนกำหนดท้าย
หลักเกณฑ์นี้
2้.ผู้เสนอเสนอโครงการต้องขอรับการรับรองมาตรฐานโรงเรียนจากสถาบันที่ได้รับการยอมรับโดยสากลตาม
เงื่อนไขระยะ
เวลาที่องค์กรที่ให้การรับรองมาตรฐานกำหนดนับแต่วันที่ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียน
3.โครงการจัดตั้งโรงเรียนผ่านความเห็นชอบของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชนแล้ว ภายใน 1 ปี
ถ้าไม่ดำเนินการโดยไม่มีเหตุผลอันสมควรและแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชนทราบ
เป็นลายลักษณ์อักษร ให้ถือว่าโครงการนั้นสิ้นสุด
4. นอกเหนือจากหลักเกณฑ์ฉบับนี้แล้ว ในการจัดตั้งโรงเรียน ผู้เสนอโครงการจัดตั้งโรงเรียนต้องปฏิบัติตาม
เงื่อนไขที่ กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน กฎกระทรวง และระเบียบกระทรวงศึกษาธิการที่เกี่ยวข้อง
การขออนุญาตจัดตั้งโรงเรียนระดับก่อนประถมศึกษา (อนุบาล)
ผู้ประสงค์จะขออนุญาตจัดตั้งโรงเรียน ให้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้
ขั้นตอนที่ 1
1. สถานที่
สถานที่และบริเวณที่ตั้งโรงเรียนต้องมีลักษณะกว้างขวางพอแก่กิจการของโรงเรียน และไม่ขัดต่อสุขลักษณะ
หรืออนามัยของนักเรียน มีรั้วแสดง ขอบเขต และจะต้องอยู่ห่างจากโรงเรียนที่ตั้งอยู่แล้วไม่น้อยกว่า 300 เมตร
เส้นทางคมนาคม ฯลฯ
2. ที่ดิน
2.1 ที่ดินที่ใช้จัดตั้งโรงเรียนต้องเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียน หรือเป็นกรรมสิทธิ์ของ
ผู้รับใบ อนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียน หรือเป็นที่เช่าที่มีลักษณะดังนี้
ก. เป็นที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ที่ราชพัสดุ ที่ศาสนสมบัติกลาง ที่ธรณีสงฆ์
หรือท
ี่ของ
องค์การของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ
ข. เป็นที่ดินของเอกชน แต่ต้องมีสัญญาเช่าซึ่งมีระยะเวลาเช่าเหลืออยู่นับแต่วันยื่นคำขอไม่น้อยกว่าสามปี
2.2 ที่ดินต้องเป็นผืนเดียวติดต่อกัน มีเนื้อที่ไม่น้อยกว่า 90 ตารางวา
3. อาคารเรียน/ห้องเรียน และห้องประกอบ
อาคารเรียน การใช้อาคารเรียนระดับก่อนประถมศึกษาให้ใช้ได้ไม่เกินชั้นที่สอง และจะต้องมีห้องสุขาในชั้นที่
สอง
ด้วยห้องเรียน ห้องเรียนแต่ละห้องต้องมีพื้นที่ไม่น้อยกว่า 35 ตารางเมตร และจะต้องเป็นห้องโล่งไม่มีเสา
หรือสิ่งกีดขวางมีแสงสว่างเพียงพอ มีทางเข้าออกสองทาง แต่ละทางต้องกว้างไม่น้อยกว่า 80 เซนติเมตร ถ้ามี
ทาง
เข้าออกทางเดียวต้องกว้าง ไม่น้อยกว่า 1.60 เมตร ที่รับประทานอาหาร โรงเรียนต้องจัดให้มีโรงอาหาร
มีโต๊ะ
ม้านั่ง สำหรับรับประทานอาหารเพียงพอกับจำนวน
นักเรียน ละมีน้ำดื่มน้ำใช้โดยไม่ขัดต่อสุขลักษณะห้องส้วมและ
ที่ปัสสาวะ ต้องจัดให้เหมาะสมและเพียงพอกับ
จำนวนนักเรียนไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ที่วางไว้ ถ้ามีนักเรียนชาย-หญิง
ต้องแยกเป็น
ห้องส้วมชายและห้องส้วมหญิง
ขั้นตอนที่ 2
ผู้ประสงค์จะขอจัดตั้งโรงเรียน ให้ยื่นเอกสารและดำเนินการดังนี้
1. โครงการจัดตั้งโรงเรียน
2. ยื่นหนังสือขออนุญาตใช้แบบแปลน เพื่อก่อสร้างอาคารเรียน พร้อมเอกสารประกอบ
ในกรณีที่ยังไม่มีอาคาร คือ
(1) แบบแปลน 3 ชุด (ถ้าใช้แบบแปลนของส่วนราชการใดต้องมีหลักฐานการอนุญาตให้ใช้แบบแปลนของ
ส่วนราชการนั้นด้วย)
(2) หนังสือรับรองแบบแปลนของสถาปนิก และวิศวกรพร้อมสำเนาบัตรอนุญาตประกอบวิชาชีพจำนวน 1 ชุด
(3) เอกสารแสดงการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินหรือสัญญาเช่าที่ดินที่ใช้เป็นที่จัดตั้งโรงเรียนซึ่งได้รับรอง
....... สำเนาถูกต้อง
(4) รายการคำนวณโครงสร้าง 1 ชุด
3. ในกรณีผู้ขอจัดตั้งโรงเรียนมีอาคารที่ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ให้เตรียมเอกสารดังนี้
(1) แบบแปลน 3 ชุด
(2) หนังสือรับรองสภาพความมั่นคงของอาคารซึ่งรับรองโดยวุฒิวิศวกร
(3) เอกสารแสดงการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินหรือสัญญาเช่าที่ดินที่ใช้เป็นที่จัดตั้งโรงเรียนซึ่งได้
รับรองสำเนาถูกต้อง
การยื่นเรื่อง
ส่วนกลาง ให้ยื่นเรื่องที่กองโรงเรียนสามัญศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน
ส่วนภูมิภาค
ให้ยื่นเรื่องที่อำเภอซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียน
ขั้นตอนที่ 3
เมื่อก่อสร้างอาคารเรียนเสร็จเรียบร้องแล้ว ให้ผู้ขอรับใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียน
ดำเนินการยื่นเอกสาร ดังนี้
1. คำขอรับใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียน (สช.1) พร้อมเอกสารระบุท้ายคำขอ
2. คำขอรับใบอนุญาตให้เป็นผู้จัดการ (สช.4) พร้อมเอกสารระบุท้ายคำขอ
3. คำขอรับใบอนุญาตให้เป็นครูใหญ่ (สช.7) พร้อมเอกสารระบุท้ายคำขอ
4. คำร้อง ร.11 ขอเก็บค่าธรรมเนียมการเรียน และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ พร้อมเอกสารประกอบ
5. ระเบียบการโรงเรียน
6. แผนผังบริเวณโรงเรียน
7. แผนผังอาคารเรียนและห้องต่าง ๆ
8. รายการตรวจสถานที่และสุขาภิบาล
9. ใบอนุญาตให้ใช้แบบแปลน |