| การศึกษาพิเศษ (Special   Education)
 การศึกษาพิเศษ   หมายถึง การสอนพิเศษสำหรับเด็กที่มีลักษณะแตกต่างไปจาก
 เด็กปกติทั่วไป   แต่ไม่ใช่หมายถึงการเปลี่ยนแปลงหลักสูตรทั่วๆ   ไปของการศึกษาการศึกษา พิเศษอาจเป็นการเปลี่ยนแปลงชั้นเรียนปกติ
                เพียงเล็กน้อยสิ่งที่สำคัญคือ   ต้องมีการเปลี่ยน แปลงสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุดและสิ่งที่โรงเรียน
                แต่ละแห่งจะต้องทำให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้   คือ   เด็กที่มีความบกพร่องในการเรียนรู้จะต้องได้เรียนกับเด็กปกติและเรียนในชั้นเรียนพิเศษ   การเรียนในชั้นเรียนพิเศษอาจใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งชั่วโมง
 
           หรือหนึ่งชั่วโมงต่อวันเท่านั้นกรณีที่เด็กมีความบกพร่องในการเรียนรู้เล็กน้อย   ให้การช่วยเหลือเพียงเล็กน้อยแต่เด็กที่มีความบกพร่องในการเรียนรู้ระดับปานกลางอาจจะต้องอยู่ในชั้น
                เรียนพิเศษเป็นเวลา   1-3 ชั่วโมงต่อวัน ส่วนเด็กที่อยู่ในชั้นเรียนพิเศษเป็นส่วนใหญ่ คือ 4-6 ชั่วโมง   จะเป็นกลุ่มที่มีความบกพร่องในการเรียนรู้ระดับรุนแรง
                ซึ่งมีไม่มากนัก
 
           เราพบว่าเด็กปกติจะไม่ถูกกระทบกระทั่งเลยถึงแม้จะมีเด็กที่มีความบกพร่องในการเรียน
                รู้เรียนอยู่ในชั้นเรียน
                เดียวกันกับเขาและในชั้นเรียนปกติก็จะช่วยเด็กที่มีความ บกพร่องในการเรียน
                รู้ได้มากเพราะ
                เด็กจะพยายามตามให้ทันเพื่อน   ทำให้เขาอยากทำให้ดีขึ้น
 
           มีคำถามว่าเราจะบอกเด็กปกติอย่างไรว่ามีเด็กพิเศษเรียนร่วมกับเขา   และทำไมเด็กเหล่า
                นี้จึงมีหลายๆ อย่างไม่เหมือนกับเขา ทั้งนี้เพื่อช่วยให้เด็กปกติและ เด็กพิเศษได้เรียนรู้ร่วมกันได้และมีทัศนคติที่ดีต่อกัน
                สิ่งเหล่านี้เรา
                สามารถทำได้ คือ การพูดคุยกับชั้นเรียน   โดยขอให้เด็กที่มีความบกพร่องในการเรียนรู้ออกจากห้อง
                เรียนก่อน   และพูดคุยให้เขามีความรู้ในเรื่องของเด็กที่มีความบกพร่องในการเรียนรู้เพื่อให้เข้าใจถึงปัญหา   หรืออาจให้เขาอ่านข้อความในกระดาษแล้วถามว่าข้อความยากไหม   เด็กที่มีความ บกพร่องในการเรียนรู้จะอ่านได้ยากกว่านี้อีกซึ่งจะทำให้เขาเข้าใจและมีความรู้สึกเห็นอก
 เห็นใจ เพราะถ้าเขาไม่รู้ ไม่เข้าใจความเห็นอกเห็นใจก็อาจจะไม่เกิดขึ้น
 
           อย่างไรก็ตาม   ถ้าเป็นไปได้ไม่ควรจัดเด็กเข้ามาอยู่ในชั้นเรียนพิเศษตลอดไป   เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ไม่ดีการจะต้องแยกเด็กที่มีความบกพร่องในการเรียนรู้ออกจากชั้น
 เรียนปกตินั้น   จะเกิดขึ้นเมื่อจำเป็นจริงๆ คือ เกิดความรุนแรงของความบกพร่องนั้น   ซึ่งถึงแม้ จะช่วยด้วยการเรียนรู้ เพิ่มเติมในชั้นเรียนปกติ   แล้วก็ไม่สามารถ
                เรียนรู้ได้ผล
 
           สิ่งที่เราพบในประเทศสหรัฐอเมริกา คือ   เราพยายามที่จะทำงานกับเด็กพิเศษเหล่านี้   ดึงเขาออกมาและจัดให้เขาเข้าไปอยู่ในชั้นเรียนพิเศษ   แต่เราปล่อยเขาไว้ในชั้นเรียนพิเศษนานเกินไปโดยไม่ได ้กำหนดว่าเมื่อไรจึงจะมีการปรับเปลี่ยนให้เขากลับเข้ามาเรียนในชั้น
 เรียนปกติบ้าง   ซึ่งปัจจุบันกฎหมายของประเทศ ได้ปรับเปลี่ยนว่าเราไม่ควรทำเช่นนั้นอีกต่อไป
 
           เป็นที่น่าสนใจว่าโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาที่รัฐวอชิงตัน   ประเทศสหรัฐอเมริกา   จัดให้เด็กที่มีภาวะปัญญาอ่อน ระดับปานกลางเรียนอยู่ในชั้นเรียนปกติ   ซึ่งก็ทราบว่าเด็ก เหล่านี้เรียนในชั้นเรียนปกติไม่ได้   แต่โรงเรียนก็ต้องการให้เรียน อยู่ในโรงเรียนเดียวกันเพื่อ ที่จะรับประทานอาหารที่เดียวกัน ใช้บริเวณโรงเรียนเดียวกัน และเด็กปกติคนอื่น   ๆ จะได้เห็นว่าเด็กที่มีภาวะปัญญาอ่อนระดับปานกลางมีลักษณะอย่างไร   ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีสำหรับ เด็กปกติที่ได้เห็นสิ่งเหล่านี้
 
           เมื่อประมาณ 15-20   ปีที่ผ่านมา สิ่งที่เราทำคือ   เราจัดเด็กที่มีภาวะปัญญาอ่อนระดับ ปานกลางให้อยู่ในสถาบัน
                ที่บำบัดเฉพาะทางหรืออาจจะต้องอยู่ที่บ้าน
                หรือโรงพยาบาล ทั้งที่เขาไม่ได้ป่วยเป็นโรคจิต   ซึ่งเราได้เรียนรู้ว่าไม่ใช่สิ่งที่ด ีสำหรับเด็กเหล่านั้น   เพราะฉะนั้นปัจจุบันจึงมีน้อยมากที่เด็กเหล่านี้จะอยู่ในสถาบันทางด้านจิตเวช   ยกเว้นเด็ก ที่มีปัญหา ทางด้านจิตเวชหรือภาวะปัญญาอ่อนระดับรุนแรงมากจริงๆ   เท่านั้น |